Support
travelchoicetv.com
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

เมืองนครปฐม

info@twoplusone.asia | 25-11-2556 | เปิดดู 3811 | ความคิดเห็น 0

 

เมืองนครปฐม

 



ที่นี่ พระราชวังสนามจันทร์ค่ะ  พระราชวังที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในเมืองนครปฐม  อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 2 กิโลเมตร  แต่เดิมก่อนที่จะสร้างพระราชวังแห่งนี้  สถานที่ตรงนี้เคยเป็นเนินดินกว้างใหญ่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วล่ะค่ะ คาดว่าเป็นที่ตั้งพระราชวังเก่าของกษัตริย์ในสมัยนั้น จึงเรียกว่า “เนินปราสาท” และมีสระน้ำที่อยู่ด้านหน้าเรียกว่า “สระน้ำจันทร์”  ซึ่งก็น่าจะเป็นที่มาของชื่อพระราชวังสนามจันทร์นั่นเองค่ะ

 

ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ มีพระที่นั่ง พระตำหนักต่าง ๆ ที่โปรดให้สร้างขึ้น และพระราชทานนามไว้อย่างคล้องจองกัน เราจะไปเดินชมในแต่ละหลัง ไล่เรียงตามลำดับกันไปนะคะ เริ่มจากพระที่นั่งองค์แรกกันก่อนเลยค่ะ

 

  

 

พระที่นั่งพิมานปฐม เป็นพระที่นั่งองค์แรก สร้างขึ้นเมื่อราวพุทธศักราช2450  เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น แบบตะวันตก แต่ได้ดัดแปลงแบบให้มีช่องระบายลมและระเบียงลูกกรงโดยรอบ ฉลุสลักลวดลายอย่างประณีตงดงาม ชั้นบนประกอบด้วยห้องต่างๆ ตามป้ายชื่อที่ปรากฎอยู่ พระที่นั่งองค์นี้ใช้เป็นที่ประทับ ที่ทรงพระอักษร ที่เสด็จออกขุนนาง ที่รับรองพระราชอาคันตุกะ และ ออกให้ราษฎรเข้าเฝ้า มากกว่าพระที่นั่ง และพระตำหนักองค์อื่นๆ

 

  

 

พระที่นั่งอภิรมย์ฤดี คือพระที่นั่งหลังย่อมอยู่ติดต่อกับพระที่นั่งพิมานปฐมทางด้านทิศใต้ มีลักษณะเป็นตึกสองชั้นรูปตัวแอล เคยเป็นสำนักงานของอัยการจังหวัดนครปฐม


    

 

พระที่นั่งวัชรีรมยา เป็นพระที่นั่งทรงไทย 2 ชั้น หลังคาซ้อนกันคล้ายหลังคาอุโบสถ มุงด้วยกระเบื้องเคลือบ มีคันทวย ช่อฟ้าใบระกา นาคสะดุ้ง หางหงส์ครบถ้วนสมบูรณ์   พระที่นั่งองค์นี้จะเชื่อมต่อกันกับพระที่นั่งพิมานปฐม ส่วนใหญ่ทรงใช้เป็นที่บรรทมและเป็นที่ทรงพระอักษร

 

 

พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ (สา มัก คี มุก ขะ มาด) เป็นพระที่นั่งโถงใหญ่ เชื่อมต่อกับพระที่นั่งวัชรีรมยา หลังคาเชื่อมติดต่อกัน เครื่องประดับตกแต่งเหมือนกัน  ทรงใช้เป็นที่ออกงานสันนิบาต ใช้เพื่อเสด็จออกขุนนางเพื่อปรึกษาข้อราชการ เป็นที่ฝึกอบรมเสือป่า และใช้เป็นที่แสดงโขนละครต่างๆ เพราะบรรจุคนได้มาก ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "โรงโขน"


 

 

พระที่นั่งปาฎิหารย์ทัศไนย เป็นพระที่นั่งองค์เล็ก ตั้งอยู่บนชานชั้นบนระหว่าง พระที่นั่งพิมานปฐม กับพระที่นั่งวัชรีรมยา ใช้เป็นที่ประทับทอดพระเนตรองค์พระปฐมเจดีย์ แต่หลังจากรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคตแล้วกระทรวงวัง ได้รื้อไปปลูกไว้บนชานชลาพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

 

 

  

 

ส่วนกลุ่มพระตำหนัก จะมีทั้งหมด 4 พระตำหนัก เริ่มจากสองหลังที่เห็นอยู่นี้กันก่อนเลยค่ะ เพราะเป็นพระตำหนักที่เชื่อมโยงกันด้วยฉนวนทางเดินทำเป็นสะพาน เดินถึงกันได้ โปรดให้สร้างขึ้นมาคู่กันเพราะมีความเกี่ยวข้องกันค่ะ ที่สำคัญพระตำหนักสองหลังนี้มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ดูสวยงามแปลกตาเหมือนอยู่ในนิยายของฝรั่งเลยทีเดียวค่ะ

 

  

 

พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นสถาปัตยกรรมลักษณะแบบผสมผสานระหว่างอิทธิพลของปราสาทแบบเรอเนซองส์ ของฝรั่งเศสกับแบบฮาล์ฟทิมเบอร์ ของอังกฤษ  ด้านหน้าของพระตำหนักมี อนุสาวรีย์ "ย่าเหล" สุนัขที่ทรงมีความอาลัยรักอย่างยิ่ง


  

 

พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ เป็นพระตำหนักไม้สองชั้นแบบตะวันตก มีเสาไม้กลม และสลักเป็นแบบนีโอ - คลาสสิก ทาสีแดง สร้างขึ้นคู่กับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ มีฉนวนสะพานเชื่อมจากชั้นบนของพระตำหนักทั้งสอง  ทั้งสามส่วนนี้เป็นกลุ่มอาคารที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากบทละครเรื่อง " My Friend Jarlet "  ของ" Arnold Golsworthy " และ " E.B. Norman”  ซึ่งทรงแปลบทละครเรื่องนี้ เป็นภาษาไทยชื่อว่า " มิตรแท้ " โดยทรงนำชื่อตัวละครในเรื่องมาเป็นชื่อของพระตำหนัก

  

   

 

พระตำหนักลำดับต่อไป ก็จะเป็นพระตำหนักคู่เช่นเดียวกันค่ะ คือ พระตำหนักทับแก้ว และพระตำหนักทับขวัญ

 พระตำหนักทับแก้ว เป็นตึกสองชั้นขนาดกระทัดรัด  ภายในทับมีเตาผิงและหลังคา มีปล่องไฟตามแบบตะวันตก  เป็นที่ตั้งกองบัญชาการเสือป่า กองร้อยเสนาน้อยราบเบารักษาพระองค์ ในเวลาที่มีการซ้อมรบเสือป่า

 

  

 

พระตำหนักทับขวัญ เป็นหมู่เรือนไทยที่สมบูรณ์แบบ มีชานแล่นเชื่อมถึงกัน เป็นเรือนไม้กระดานทำด้วยไม้สักล้วน ฝาเรือนทำเป็นฝาปะกนกรอบลูกฟัก ฝีมือประณีต ใช้วิธีเข้าไม้ตามแบบฉบับของชาวไทยโบราณ

 

  

 

ในพระราชวังสนามจันทร์ นอกจากจะมีพระที่นั่งและพระตำหนักที่งดงามน่าชมแล้วนะคะ  ยังมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นเรือนพักของ     ข้าราชบริพารอีกหลายหลัง  แต่ที่เมย์จะพาไปชมนี้เป็นเรือนพักขนาดใหญ่ชื่อว่า เรือนทับเจริญค่ะ ซึ่งเดิมเป็นที่พักของเจ้าพระยารามราฆพ อธิบดีกรมมหาดเล็ก แต่ปัจจุบันหลังจากที่มีการบูรณะแล้ว ก็ใช้เป็นที่ตั้งของสถาบันวัฒนธรรมภูมิภาคตะวันตก ซึ่งเป็นสถานที่ที่รวบรวมผลงานด้านวัฒนธรรม ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านในภูมิภาคแถบนี้ค่ะ

 

  

 

...มาถึงแล้วค่ะ เรือนทับเจริญ..

เรือนหลังนี้สร้างขึ้นปลายรัชกาลแล้ว คือเมื่อพุทธศักราช 2467  เป็นเรือนไม้หลังคาทรงปั้นหยา  มุงด้วยกระเบื้องว่าว ชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูง ที่นี่จัดแสดงผลงานทางด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นตะวันตกของจังหวัด ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และประจวบคีรีขันธ์

 

  

 

มีห้องจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในแถบตะวันตก เช่น มอญ ลาวครั่ง ลาวโซ่ง ละว้า กวย ลาวเวียง  มีห้องแสดงหุ่นกระบอกไทย  ส่วนใต้ถุนจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ด้านกสิกรรมในสมัยโบราณ เช่น ไถ คราด เครื่องสีข้าว ครกกระเดื่อง ลอบ ไซ โม่หิน รวมทั้ง สิ่งที่ใช้ในชีวิต อย่างเช่น เรือ หรือแม้กระทั่ง โลงผีแมน ที่นี่ก็มีค่ะ

 

  

 

ตอนนี้เราก็มาถึงปลายทางของทริปนครปฐมกันแล้วค่ะ  ที่นี่คือ พุทธมณฑล รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับ นครปฐม  เป็นด่านแรกของนครปฐมที่ติดกับกรุงเทพฯ  แต่เป็นจุดสิ้นสุดของกรุงเทพฯด้านตะวันตก และก็เป็นจุดสิ้นสุดของทริปปริมณฑลกรุงเทพฯของเราอีกด้วยค่ะ  พุทธมณฑลในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนาโลก และศูนย์รวมในการจัดกิจกรรมด้านพุทธศาสนา ประเพณี และกิจกรรมต่างๆแล้วนะคะ ที่นี่ก็ยังเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่  ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปพักผ่อนได้อีกด้วย เหมือนอย่างที่เมย์กำลังนั่งพักผ่อนอยู่นี่ล่ะค่ะ

 

 

พบกับ TRAVEL CHOICE  ได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ ยังมีเส้นทางอื่นๆที่น่าสนใจ พร้อมที่จะนำเสนอและชวนไปเที่ยวกันในทริปต่อไป  อ้อ..ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ  แล้วพบกันใหม่ค่ะ


 

ความคิดเห็น

วันที่: Mon Nov 25 11:21:50 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0